ทางเข้าเล่นบาคาร่า 888 สังคมคนเล่นคาสิโนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด

BACCARAT 888 NEWS => วิธีเล่น สูตรบาคาร่า บทความพนันออนไลน์ => หัวข้อที่ตั้งโดย: มาราโดน่า เมื่อ เม.ย 17, 2022, 11:15 หลังเที่ยง

ชื่อ: สานฝัน 4 แชมป์! "มาเน่" เหมาสองลิเวอร์พูลเฉือนแมนซิตี้ลิ่วชิงดำเอฟเอ คัพ
โดย: มาราโดน่า เมื่อ เม.ย 17, 2022, 11:15 หลังเที่ยง
(https://static.siamsport.co.th/news/2022/04/16/news202204162316329.jpg)

"หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำผลงานได้ตามเป้าหลังระเบิดฟอร์มเบียด แมนฯ ซิตี้ 3-2 จากผลงานของ ซาดิโอ มาเน่ เหมาคนเดียว 2 ประตูพาทีมผงาดเข้าชิงชนะเลิศ รอพบ เชลซี หรือ คริสตัล พาเลซ วันที่ 14 พ.ค. ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน

    ศึก เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ที่สนาม เวมบลี่ย์ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ รองจ่าฝูงพรเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล

    โดยทั้งสองทีมต่างเพิ่งลงเล่นในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์มา ทว่าลูกทีมของ เป๊ป ดูจะนวมและมีปัญหาเรื่องอาการเจ็บและความฟิตของผู้เล่นจากเกมบุกยันเสมอ แอต.มาดริด 0-0 ซึ่งวันนี้จัดสามแนวรุกอย่าง กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง และแจ็ค กรีลิช โดยถอย ฟิล โฟเด้น เชื่อมกลาง ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ มีชื่อเป็นสำรอง

    ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ทีมที่ฟิตสมบูรณ์หลังพักตัวหลักในเกมยุโรปที่แอนฟิลด์เกือบยกทีม จัดหน้าสามเช่นกันทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และหลุยส์ ดิอาซ ล่าตาข่าย

    เปิดฉากมาใส่เกมบุกแลกกันเลย นาทีที่ 4 "เรือใบสีฟ้า" ได้ขึ้นมาทางขวา ชูเอา กานเซโล่ หักมาในกรอบให้ แจ็ค กรีลิช ตะบันด้วยขวาแต่ยังดีที่มีแข้งหงส์แดงตามมาบล็อคได้ทัน

    แต่ว่า นาทีที่ 10 เดอะ ค็อป ได้เฮกันลั่นทั้งเวมบลี่ย์ หลัง ลิเวอร์พูล ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดมาให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ โถมมาโขกเข้าไปตุงตาข่ายเป็นเม็ดที่ 3 ใน 3 เกมล่าสุดที่ลงตัวจริงหลังเพิ่งโขกสองตุงล่าสุดมาในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ เบนฟิก้า สองเกมติด

    สถานการณ์ของลูกทีม เป๊ป แย่หนักไปอีก เมื่อมาเสียเม็ดที่สองให้ "หงส์แดง" ในนาที 17 จากความผิดพลาดของ แซค สเตฟเฟ่น ที่โดน มาเน่ วิ่งมาเพรสจนนายด่านเรือใบออกบอลในกรอบ 6 หลาตัวเองจนโดน มาเน่ พุ่งสไลด์ขวางบอลเปลี่ยนทางเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง แมนฯ ซิตี้ 2-0

    รูปเกมของ แมนฯซิตี้ ไม่ดีขึ้นเลย จนถึงตอนนี้ยังยิงไม่เข้ากรอบ แถมช่วงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ต้องมาสังเวยเม็ดที่สามให้ "หงส์แดง" นำโด่ง 3-0 จากจังหวะการต่อบอลที่สวยงามของ "หงส์แดง" ก่อนที่ ติอาโก้ จะตักให้ มาเน่ เอี่ยวตัววอลเลย์บอลพุ่งติดไซด์ก้อยเบียดโคนเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม

    จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-3

    เปิดฉากครึ่งหลังเพียง 2 นาที "เรือใบสีฟ้า" ตีไข่แตกไล่มา 1-3 เป็นจังหวะตัดบอลทางขวา แฟร์นานดินโญ่ พาแหวกขึ้นมาไหลเข้าเขตโทษถึง กาเบรียล เชซุส สอดมาเก็บพาตัดเข้าในไหลถวายพานให้ แจ็ค กรีลิช ซัดเสียบเสาแรกเข้าไปไม่พลาด

    ต่อมานาทีที่ 53 แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่อง ราฮีม สเตอร์ลิง ดีดเร็วเข้าช่องให้ กาเบรียล เชซุส หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางขวากระชากเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงช้าโดน เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ตามมาบีบซัดไปติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์

    70 นาทีผ่าน "เรือใบสีฟ้า" พลาดโอกาสทองคราวนี้จากบอลทางซ้าย แจ็ค กรีลิช แทงช่องสุดงามให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเดี่ยวแต่จังหวะล่อเป้าซัดไม่ดีไปติดเท้า อลิสซอน เบ็คเกอร์ เด้งหลุดเสาไกลนิดเดียว

    2 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล หวิดได้เฮบ้างจากความผิดพลาดของ โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ โขกคืนหลังเบาโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สอดมาฉกยกข้าม แซค สเตฟเฟ่น หลุดเข้าข้างตาข่ายเหลือเชื่อ

    ช่วงท้ายเกมเปิดแลกกันสนุก ลิเวอร์พูล ได้เสียวสองครั้งจากจังหวะยิงของ หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เสียดายไม่หนีตัว แซค สเตฟเฟ่น ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้ไม่พลาด

    นาทีที่ 90 "เรือใบสีฟ้า" ไล่มา 2-3 จนได้เป็นบอลยาวทิ้งออกขวาถึง ริยาด์ มาห์เรซ สอดตัดหน้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้ช่องซัดไปติด อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไหลย้อนไปเสาไกลเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซ้ำเข้าไปไม่พลาด

    ช่วงทดเจ็บ แมนฯ ซิตี้ เกือบได้เฮ แฟร์นานดินโญ่ และ ริยาด์ มาห์เรซ เก็บตกในเขตโทษเสียดายจังหวะซัดไม่ดีเหินข้ามคานน่าผิดหวัง ส่วนทาง "หงส์แดง" ดักสวนกลับลุ้นปิดกล่องจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่ก็ยังไม่ดีพอผ่าน แซค สเตฟเฟ่น

    หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ลิเวอร์พูล 3

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม   

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : แซค สเตฟเฟ่น - ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นานดินโญ่ (กัปตันทีม), ฟิล โฟเด้น - กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง, แจ็ค กรีลิช

    สำรอง : เอแดร์ซอน, ริยาด์ มาห์เรซ, โรเมโอ ลาเวีย, รูเบน ดิอาส, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี, เลียม ดีแล็ป, อายเมริค ลาปอร์กต์

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (กัปตันทีม), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกานตาร่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ

    สำรอง : ควิวีน เคลเลเฮอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เคอร์ติส โจนส์, คอสตาส ซิมิคาส, โจ โกเมซ, โฌเอล มาติป, เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดีโอโก้ โชต้า

ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

 ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์