(https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2022/09/%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%86%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2.jpg)
กุนซือพยัคฆ์ล้านนา จุน ฟูคุดะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนเชียงใหม่ เอฟซี พอใจกับผลงานของลูกทีมพยัคฆ์ล้านนา หลังออกสตาร์ตไทยลีก 2 ด้วยการไม่แพ้ทีมใดรั้งอันดับ 5
กุนซือพยัคฆ์ล้านนา จุน ฟูคุดะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่นของทัพ "พยัคฆ์ล้านนา"เชียงใหม่ เอฟซี สร้างมิติที่แปลกใหม่ของฟุตบอลอาชีพเวียงพิงค์ เพราะนอกจากระบบการจัดการหลังบ้านที่เป็นสัดส่วน ต่างคนต่างรับผิดชอบในเนื้องาน การวางแผนรูปแบบการซ้อม การแบ่งหน้าที่ๆ ชัดเจนแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์รูปแบบการเล่นได้ช่วยให้เชียงใหม่ เอฟซี เดินงานได้อย่างคล่องตัว และที่สำคัญ การทำงานภายใต้แนวคิดระบบทีมต้องมาก่อน ได้ตัดปัญหา "เดอะ แบก" อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงจะไม่มีทางเห็นการเล่นแบบฉายเดี่ยว หรือฝากบอลไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่งของเชียงใหม่ เอฟซี อย่างที่ผ่านๆ มาแน่นอน
หัวหน้าโค้ชเชียงใหม่ กล่าวว่า "ความสำเร็จของพวกเรา ไม่ได้มาจากใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้มาจากผมคนเดียว แต่มาจากทุกคนในทีม ทุกฝ่าย ที่ช่วยกันต่างหาก ผมเคยบอกไปแล้วว่า นักเตะชุดนี้มีศักยภาพสูงทุกคน และทุกคนมีพรสวรรค์ ผมมีหน้าที่ดึงศักยภาพที่พวกเขามีออกมาให้ได้มากที่สุด จัดวางให้ลงตัวที่สุดในแต่ละนัดเท่านั้น"
"สำหรับผม ไม่มีใครเป็นตัวจริง หรือตัวสำรอง ไม่มีใครเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่เราคือทีมเดียวกัน เพราะฟุตบอลเล่นกันเป็นทีม จะเล่นคนเดียวไม่ได้ และผมเชื่อว่าพวกเรายังสามารถพัฒนาไปได้อีกมาก นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น"
ความคลั่งไคล้ 21 ส.ค. คือเกมเหย้านัดแรกในซีซั่น 2022-23 โดยมี นครปฐม ยูไนเต็ด เป็นอาคันตุกะทีมแรก ซึ่งความบันเทิงจากเกมนี้ เกิดขึ้นตลอด 90 นาที จวบจนสิ้นเสียงนกหวีดจบการแข่งขัน การแบ่งคะแนนบนสกอร์ 0-0 ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แค่เสียดายที่ 3 แต้ม ไม่ได้อยู่ในถิ่นพยัคฆ์ล้านนา
แต่ทั้งนี้อย่าลืมไปว่าผู้มาเยือนเองวางแผนมารับแล้วโต้ และพวกเขาไม่ต้องการกลับออกไปอย่างผู้แพ้ โดยหลังเกมพบว่าเชียงใหม่ เอฟซี มีโอกาสยิง 9 ครั้ง ผ่านบอลทั้งหมด 360 ครั้ง ขณะที่นครปฐม มีโอกาสยิง 5 ครั้ง ผ่านบอลทั้งหมด 333 ครั้ง แต่ที่น่าปลาบปลื้มและต้องขอบคุณจากใจจริง คือจำนวนแฟนบอลที่เข้าชมในสนาม 1,831 ชีวิต ที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ และเชื่อเหลือเกินว่าจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นสักขีพยานในการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดไปด้วยกัน
ด้าน สหรัฐ โพธิ์ศรี ดาวเตะพยัคฆ์ล้านนา กล่าวว่า "นัดเเรกในบ้านทุกคนเเละทีมงาน ตั้งเป้าไว้ที่สามเเต้ม เเต่ว่านครปฐม ทำได้ดี มันไม่ง่ายแน่ๆ พวกเราต้องพยายามให้มากกว่านี้ เพื่อเเลกกับสามเเต้ม แต่ทางกลับกันเราไม่เสียประตู เเสดงว่าเกมรับเรายังพอใช้ได้อยู่"
"ส่วนเกมรุกเรามีโอกาส เเต่เราใส่สกอร์ไม่ได้ เราต้องกลับมาพัฒนาจังหวะจบสกอร์ให้เนียนกว่านี้ สุดท้ายเเล้วต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกัน เเละขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ มาให้กำลังใจ ถึงผลการเเข่งขันอาจจะไม่เป็นใจ เเละน่าผิดหวัง แต่สำหรับผมเพิ่งเริ่มต้น และเรายังต้องเดินหน้าต่อไป"
นัดประเดิม ซีซั่น 2022-23 ของ "พยัคฆ์ล้านนา" เปิดฉากด้วยการออกไปเยือน แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ก่อนกลับขึ้นเหนือด้วย 1 คะแนน ด้วยการเสมอ 1-1 หลังเกมพบว่า เชียงใหม่ เอฟซี มีโอกาสยิง 10 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ได้ 1 ประตู ซึ่งต้องบอกว่าเสียดาย และเสียดาย กับลูกยิงชนเสาชนคาน ที่น่าจะเปลี่ยนเป็นประตู และอาจเปลี่ยนเป็นชัยชนะ
โดยสุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว เซ็นเตอร์แบ๊กตัวเก่งกล่าวว่า "ที่น่าดีใจคือได้เห็นความใจสู้ของน้องๆ และเพื่อนร่วมทีม ที่มุ่งมั่นกับเกม และกระหายที่จะเอาชนะ แม้จะต้องเป็นฝ่ายตามหลัง แต่สมาธิไม่เสีย และเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างค่อนข้างลงตัว และเรายังยืนยันเป้าหมายเดิมคือการเลื่อนชั้น แน่นอนเราสู้ไม่ถอย"
ผลงานแบ๊กโฟร์ การเสีย 2 ประตู จาก 3 เกมยังบ่งบอกอะไรได้ไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงต้นซีซั่น แต่แผงหลังทั้ง 4 ของเชียงใหม่ เอฟซี สร้างความอุ่นใจให้กับทุกส่วน ส่งผลให้ผู้เล่นที่เหลือสามารถเดินงานตัวเองได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องพะวงหลังบ้าน ซึ่งจุดเด่นของเกมรับเชียงใหม่ เอฟซี ชุดนี้แทบจะครบองค์ประกอบหลัก ทั้งการเติมเกมรุกของวิงแบ๊กทั้งสองฝั่ง, ลูกเก๋า, ลูกสด, ลูกโด่ง, ความเร็ว, ลูกแท็กติก รวมถึงการเซ็ตเกมจากแดนหลัง
แถมยังมีด่านสุดท้ายที่ไว้ใจได้ ขาดเพียงการทำประตู แต่เชื่อว่าจะมีให้เห็นแน่นอน ซึ่งสถิติตลอด 3 เกมที่ผ่านมาเกมรับเชียงใหม่ เอฟซี ชุดนี้ดูดีมิใช่ย่อย โดยเฉพาะปราการหลังคู่กลาง โดยสุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว (หัวหน้าทีม) รวมแย่งบอลจาก 3 นัด 12 ครั้ง ชนะ 9 ครั้ง, แย่งโหม่ง 8 ครั้ง ชนะ 7 ครั้ง ส่วน เวลจ์โก ฟิลิโปวิช รวมแย่งบอลจาก 3 นัด 19 ครั้ง ชนะ 12 ครั้ง, แย่งโหม่ง 17 ครั้ง ชนะ 14 ครั้ง
ฝั่งผลงานของสองวิงแบ๊กดูดีเช่นกัน โดย 3 เกมที่ผ่านมา ศราวุธ เกิดศรี ได้โอกาสยิง 1 ครั้ง ไม่เป็นประตู แต่เปิดบอลให้เพื่อน 2 ครั้ง เป็น 1 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นแอสซิสต์แรกในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ยังมีความแม่นยำสูงในการผ่านบอล ซึ่งจาก 108 ครั้ง แม่นถึง 66% เลยทีเดียว ด้าน 3 เกมของ ไรฮาน สจ๊วร์ต รวมแย่งบอล 32 ครั้ง ชนะ 24 ครั้ง, เลี้ยงบอล 5 ครั้ง ผ่าน 3 ครั้ง
ขณะที่เกียรติพล อุดม ผู้รับงานด่านสุดท้าย ประเดิมนัดที่ 1 ผ่านบอล 15 ครั้ง สำเร็จ 73%, วางบอลยาว 6 ครั้ง สำเร็จ 2 ครั้ง ถัดมานัดที่ 2 ผ่านบอล 15 ครั้ง สำเร็จ 73%, วางบอลยาว 10 ครั้ง สำเร็จ 6 ครั้ง, ซูเปอร์เซฟ 2 ครั้ง และนัดที่ 3 ล่าสุดผ่านบอล 19 ครั้ง สำเร็จ 53%, วางบอลยาว 18 ครั้ง สำเร็จ 9 ครั้ง และซูเปอร์เซฟ 2 ครั้ง