(https://s.isanook.com/sp/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3NwLzAvdWQvMjcyLzEzNjI4NDkvcGFuZzEuanBn.jpg)
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2021/22
คืนวันพุธที่ 6 เมษายน 2022
เชลซี 1-3 เรอัล มาดริด
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี เปิดบ้านพ่ายต่อ เรอัล มาดริด ไปในเลกแรก 1-3 โดยทีมเยือนได้ 3 ประตูจากแฮททริกของ เบนเซมา ในนาทีที่ 21 24 และ 46 ส่วนเจ้าบ้านได้หนึ่งประตูจาก ไค ฮาเวิร์ตซ์ ในนาทีที่ 40 ทำให้ ราชันชุดขาว บุกมากุมความได้เปรียบด้วยการบุกมาเอาชนะถึง ลอนดอน กลับไปได้สำเร็จ
(https://images2.minutemediacdn.com/image/upload/c_crop,w_1024,h_682,x_0,y_0/c_fill,w_720,ar_3:2,f_auto,q_auto,g_auto/images/GettyImages/mmsport/90min_th_international_web/01g00askp4kk0sywn19s.jpg)
David Alaba, Eder Militao, Ferland Mendy, Karim Benzema
เริ่มครึ่งเวลาแรกเป็น เชลซี ที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่าเล็กน้อย แต่นาทีที่ 4 ทีมเยือนมีลุ้นก่อนจาก เอแดร์ มิลิเตา แต่ เมนดี้ ยังล้มตัวรับสบาย
นาทีที่ 10 ผู้มาเยือนเกือบออกนำจากจังหวะสวนกลับและเป็น วินิซิอุส ได้ยิงโล่ง ๆ แต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง
5 นาทีต่อมา เจ้าบ้านมีลุ้นบ้างจากจังหวะฟรีคิก รีซ เจมส์ ปั่นด้วยขวาไปที่เสาไกล แต่ กูร์ตัวส์ ยังบินมาปัดออกไปได้
กระทั่งนาทีที่ 21 เรอัล มาดริด ออกนำก่อนจากจังหวะที่ วินิซิอุส หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนโยนเข้ากลางมาให้ เบนเซมา โขกโล่ง ๆ เสียบใต้คานเข้าประตูไป
3 นาทีต่อจากนั้น ราชันชุดขาว มาบวกประตูที่สองจากจังหวะที่ โมดริช โยนเข้ามาถึง เบนเซมา โหม่งย้อนศรเข้าไปอย่างงดงาม
นาทีที่ 30 มาดริด ได้จบอีกครั้งจากลูกเตะมุมและเป็น มิลิเตา ที่ได้โขกเน้น ๆ แต่ยังไปเข้ามือ เมนดี้
นาทีที่ 38 ติอาโก้ ซิลวา ได้ลุ้นโขกลูกเตะมุมบ้าง แต่บอลลอยเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น
2 นาทีต่อมา เชลซี ไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ จอร์จินโญ วางบอลในแนวลึกให้กับ ฮาเวิร์ตซ์ โฉบมาโหม่ง กูร์ตัวส์ พยายามปัดแต่บอลแรงพุ่งเข้าประตูไป
นาทีที่ 42 เบนเซมา ได้ลุ้นยิงโล่ง ๆ แต่กลับซัดหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์ 1-2
(https://images2.minutemediacdn.com/image/upload/c_crop,w_1024,h_682,x_0,y_0/c_fill,w_720,ar_3:2,f_auto,q_auto,g_auto/images/GettyImages/mmsport/90min_th_international_web/01g00axafkhwr91my161.jpg)
Karim Benzema, Vinicius Junior
เริ่มครึ่งเวลาหลังได้เพียง 1 นาทีทีมเยือนมาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะที่ เมนดี้ จ่ายบอลพลาดไปเข้าทาง เบนเซมา ยิงโล่ง ๆ เข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 50 อัซปิลิกวยต้า มีลุ้นยิงไกล บอลทำท่าจะเสียบใต้คาน แต่ กูร์ตัวส์ ยังบินมาซุเปอร์เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 68 ลูกากู ได้โหม่งเหน่ง ๆ แต่กลับผิดเหลี่ยมหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
2 นาทีต่อจากนั้น เมานท์ ได้ปั่นจากนอกกรอบ บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 79 ฮาเวิร์ตซ์ ยิงไกลนอกกรอบ แต่ยังไปตรงตัว กูร์ตัวส์
นาทีที่ 83 รีส เจมส์ ลองส่องไกล แต่ก็ยังไปติดเซฟของ กูร์ตัวส์ อีกครั้ง
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซิเยค มีลุ้นวอลเล่ในกรอบเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ทำให้จบ 90 นาที เชลซี เปิดบ้านพ่ายต่อ เรอัล มาดริด ไป 1-3
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ - อันเดรียส คริสเตนเซ่น (มาเตโอ โควาซิช น. 46), ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ฮาคิม ซิเย็ค น. 46), จอร์จินโญ่ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น. 64), เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - คริสเตียน พูลิซิช (โรเมลู ลูกากู น. 64), เมสัน เมาท์ - ไค ฮาแวร์ทซ์
เรอัล มาดริด : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา (นาโช่ เฟร์นานเดซ น. 64), ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องต์ เมนดี้ - ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส (เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า น. 74) - เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ (ดานี่ เซบายอส น. 86) , คาริม เบนเซม่า (แกเร็ธ เบล น. 86), วินิซิอุส จูเนียร์