ค้นหา

[มาราโดน่า]

เมื่อไหร่ก็ตามที่สโมสรยักษ์ใหญ่เซ็นสัญญานักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม แน่นอนว่าแฟนบอลพร้อมที่จะพุ่งตรงดิ่งไปที่ร้านขายของที่ระลึกของสโมสรหรือเปิดเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์เพื่อจะได้เป็นเจ้าของเสื้อสตาร์ใหม่ของพวกเขา

    ปริมาณความสนใจของแฟนบอลจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่านักเตะคนนั้นคือใคร และสโมสรนั้นใหญ่ขนาดไหน แต่ในกรณีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องบอกเลยว่าสาวกของพวกเขาพร้อมที่จะควักกระเป๋าเพื่อซื้อเสื้อนักเตะทีมรักแบบไม่สนต่อรองราคา

    อย่างไรก็ตามมีผู้เล่นบางคนที่ "ผีแดง" เซ็นสัญญามาร่วมทัพนอกจากคาดหวังในฝีเท้าของพวกเขาแล้ว ยังตั้งเป้าที่จะได้กอบโกยผลประโยชน์จากสตาร์เหล่านั้นโดยเฉพาะยอดจำหน่ายเสื้อแข่งที่จะพุ่งพรวดในชั่วข้ามคืน

    ลองมาดูกันดีกว่าว่า 7 นักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญามาร่วมทัพเพื่อเพิ่มยอดขายเสื้อให้กับสโมสร ส่วนผลงานของแต่ละคนจะ "ปัง" หรือไม่แฟนผีโปรเจกต์ต้องตัดสินเอาเอง !!

เอดินสัน คาวานี่



    สำหรับ เอดินสัน คาวานี่ เดินตามรอยของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่โบกมือลา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยการเซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยหัวหอกชาวอุรุกวัย ย้ายมาร่วมทัพในตอนแรกด้วยสัญญา 1 ปี

    "เอล มาทาดอร์" ได้รับเสื้อหมายเลข 7 ซึ่งเป็นเบอร์ตำนานของสโมสร และเป็นหมายเลขยอดฮิตในร้านจำหน่ายของที่ระลึกสโมสรด้วย และแน่นอนว่านักเตะทำผลงานได้น่าประทับใจซะด้วย

    คาวานี่ มีช่วงเวลาที่สุดพิเศษกับ "ปีศาจแดง" รวมทั้งการยิงประตูสำคัญในหลายๆ แมตช์ให้กับต้นสังกัดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จนได้โบนัสเป็นสัญญาใหม่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว

    อย่างไรก็ตามซีซั่นปัจจุบัน คาวานี่ ไม่สามารถทำผลงานได้เหมือนเดิม เนื่องจากโดนปัญหาบาดเจ็บรบกวน และการมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้โอกาสในการลงสนามของเขามีข้อจำกัด แต่ตอนนี้มีรายงานว่าเตรียมโบกมือลาสโมสรเพื่อไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด หลังจบฤดูกาลนี้แบบฟรีเอเยนต์
 
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์



    ในกรณีของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เป็นตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมนี แต่สุดท้ายเจ้าตัวเลือกที่จะจบช่วงเวลา 13 ปีกับ "เสือใต้" เพื่อย้ายไปเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2015

    สำหรับในช่วงเวลานั้น "ปีศาจแดง" อยากได้กองกลางจอมสร้างสรรค์เกม และหลังจากที่พลาดเป้าหมายที่ต้องการ พวกเขาก็เลยตัดสินใจคว้าตัว สตาร์ชาวเยอรมัน มาเสริมทัพแทน

    อย่างไรก็ตามการย้ายมาของ "ชไวนี่" กลายเป็นฝันร้ายของนักเตะและสโมสร โดยเจ้าตัวได้ลงเล่นในลีกแค่ 18 เกมในช่วง 2 ฤดูกาลก่อนที่จะโบกมือลาไปอยู่กับ ชิคาโก้ ไฟร์ ในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐฯ ในปี 2017

    ทั้งนี้ ชไวน์สไตเกอร์ ไม่ใช่มิดฟิลด์ที่แมนฯ ยูฯ ต้องการ แต่ถือเป็นผู้เล่นชื่อดังในเวลานั้น และเสื้อหมายเลข 31 ของเขาทั้งแฟนบอลชาวอังกฤษ และเยอรมันพร้อมควักเงินซื้อมาใส่ 
 
อเล็กซิส ซานเชซ



    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีงานอดิเรกในการคว้านักเตะชั้นดีมาจากอาร์เซน่อล เพราะพวกเขาเซ็นสัญญากับ อเล็กซิส ซานเชซ หลังจากที่เคยทุ่มเงินซื้อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มาจาก "ปืนใหญ่" เมื่อปี 2012

    ซานเชซ เป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของ อาร์เซน่อ และแฟนบอล "ผีแดง" ดีใจมากๆ ตอนที่สโมสรประกาศอย่างเป็นทางการว่านักเตะเตรียมจะเดินทางมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    นี่คืออีกหนึ่งการย้ายทีมที่สุดหายนะของสโมสร แม้ว่า แมนฯ ยูฯ จะไม่ได้เสียค่าตัวนักเตะ เนื่องจากเป็นดีลการแลกตัวกับ เฮนริค มคิทาร์ยาน แต่พวกเขาต้องจ่ายค่าเหนื่อยแพงลิบลิ่วเพื่อยั่วใจให้เขามาเล่นกับ "เร้ด เดวิลส์"

    แม้ว่าทีมจะใช้เงินจ่ายค่าจ้างให้ ซานเชซ แพงระยับก็ตาม แต่พวกเขาก็น่าจะได้ทุนคืนพอสมควรจากการขายเสื้อเบอร์ 7 ของเจ้าตัว โดยสาวก "เร้ด อาร์มี่" ยินดีที่จะจ่ายเงินซื้อเสื้อของ ซานเชซ สวนทางกับแฟนบอล อาร์เซน่อล ที่เผาเสื้อของเขาตอนที่อยู่กับสโมสร

    อย่างไรก็ตามสาวก "ปืนโต" หัวเราะที่หลังดังกว่า เพราะ ซานเชซ ล้มเหลวไม่เป็นทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะนอกจากการเปิดตัว "เล่นเปียโน" แล้วที่เหลือก็ไม่มีอะไรน่าจดจำสำหรับแฟนบอลแมนฯยูฯ

อังเคล ดิ มาเรีย



    แฟนบอล "ผีแดง" เกิดอาการเนื้อเต้นสุดๆ ตอนที่พวกเขาเซ็นสัญญากับ อังเคล ดิ มาเรีย มาจาก เรอัล มาดริด เมื่อปี 2014 ซึ่งแน่นอนว่านี่คือนักเตะระดับเวิลด์คลาสที่พวกเขาเฝ้ารอคอย

    การคว้าตัว ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ มาเสริมแกร่งถือว่าสร้างความฮือฮาอย่างมาก เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งปีกที่เก่งที่สุดในโลก ส่วน ยูไนเต็ด ก็สมหวังที่หากคนแทน โรนัลโด้ ได้สำเร็จ

    นี่ก็เป็นอีกหนึ่งการย้ายทีมที่ล้มเหลว เพราะ ดิ มาเรีย โบกมือลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในซัมเมอร์ถัดมาหลังมีรายงานว่าเขาเกลียดการใช้ชีวิตในประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะภรรยาของนักเตะที่ตาหน้าเมืองแมนเชสเตอร์ว่าสุดห่วยแตกเลยทีเดียว

    แม้ว่าฟอร์มการเล่นของ ดิ มาเรีย กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่ได้เรื่องเลยก็ตาม แต่ตอนที่เขาย้ายมาร่วมทัพ เสื้อหมายเลข 7 ถือว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว

คริสเตียโน่ โรนัลโด้



    การเซ็นสัญญาดึง โรนัลโด้ กลับมาเล่นให้กับสโมสรเป็นคำรบสองถือว่าช่วยเรื่องการเงินได้มากกว่านักเตะคนอื่นๆ อย่างแท้จริง โดย "เฮียโด้" เป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก และสาวก "เร้ด อาร์มี่" ฝันมานานหลายปีอยากเห็นกลับมาสู่ทีมรักอีกครั้ง และสุดท้ายฝันก็เป็นจริง

    ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โรนัลโด้ ตัดสินใจกลับมาสู่อ้อมอกของสโมสร พร้อมกับผลงานชั้นดียิงประตูเป็นได้เป็นกอบเป็นกำจนกลายเป็นดาวซัลโวประจำทีมในฤดูกาลนี้

    ในขณะเดียวกันการย้ายกลับสู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังทำให้เขามีผู้ติดตามในสื่อสังคมออนไลน์มากกว่า 200 ล้านฟอลโลว์ไปแล้ว ขณะเดียวกับเสื้อแข่งแมนฯ ยูฯ ที่มีชื่อของ "ซีอาร์ เซเว่น" ถูกจำนานไปทั่วทุกหัวละแหงในเมืองแมนเชสเตอร์ และทั่วโลก

    โรนัลโด้ ยังคงเป็นตำนาน และการแน่นอนว่าการที่ตำนานกลับมาสู่ทีมเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นสุดๆ แต่โชคร้ายที่ฤดูกาลนี้เขาและแฟนบอลคงยากจะลืม โดย แมนฯ ยูฯ ทำผลงานได้ย่ำแย่เหลือเกิน และมีสิทธิ์ที่จะพลาดตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าซะด้วย
 
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช



    ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีเอกลักษณ์เอกบุรุษที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอล โดยสตาร์ชาวสวีดิช เป็นหนึ่งในหัวหอกที่เก่งที่สุดในโลก และมักจะมีลีลาการเล่นที่สุดหวือหวา

    หลัจากสร้างความยิ่งใหญ่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เรียบร้อยแล้ว ภารกิจต่อไปของเขาก็คือการย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2016 และช่วยให้สโมสรได้ลิ้มรสชาติความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในซีซั่นแรกกับสโมสร

    ก่อนหน้าที่จะคว้า 2 แชมป์ระดับเมเจอร์กับสโมสร "อิบรา" ช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ตอนที่เริ่มต้นซีซั่นแรก โดยเขาเป็นคนยิงประตูชัยในเกมเฉือน เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ที่สนามเวมบลีย์ และแน่นอนว่าแฟนบอล "ผีแดง" สุดดีใจกับฮีโร่คนใหม่และรีบจ่ายเงินซื้อเสื้อนักเตะทันที

    ช่วงเวลา 2 ปีที่ อิบราฮิโมวิช อยู่กับ แมนฯ ยูฯ ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้กับ แอลเอ แกแล็กซี่ และสร้างชื่อในฐานะหนึ่งในสตาร์ดังเอ็มแอลเอส ลีก ด้วย  ปัจจุบันนักเตะอายุ 40 กะรัตแล้ว แต่ยังเล่นอยู่ในลีกระดับสูงกับ เอซี มิลาน และนำทีมลุ้นแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ในซีซั่นนี้
 
ปอล ป็อกบา



    กรณีของ ปอล ป็อกบา ดูเหมือนว่าเขาเตรียมอำลา แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากที่นักเตะจะหมดสัญญากับต้นสังกัดหลังจบฤดูกาลปัจจุบัน และย้ายหนีสโมสรเป็นคำรบสอง

    ป็อกบา หวนกลับมาสู่ "โรงละครแห่งความฝัน" เมื่อปี 2016 โดยนี่คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีการพูดถึงกันเยอะมากในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร ซึ่งมันเกิดขึ้นก่อนที่ โรนัลโด้ จะกลับสู่อ้อมอกทีมรัก

    ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ทิ้ง แมนฯ ยูฯ ไปในปี 2012 หลังปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่ และจากนั้นก็กลายเป็นสตาร์ดังกับ ยูเวนตุส ก่อนที่จะหวนกลับมาสู่ทีมด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์ (ราว 3,916 ล้านบาท) ซึ่งยังคงเป็นสถิติของสโมสรจนถึงปัจจุบัน

    นอกจากนี้ยังเป็นสถิติย้ายทีมแพงสุดในพรีเมียร์ลีกจนกระทั่งช่วงต้นซีซั่นนี้เมื่อ แจ็ค กรีลิช ทำลายสถิติด้วยการย้ายจาก แอสตัน วิลล่า ไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท)

    "ป็อกแบ็ก" สโลแกนสุดเท่ที่ใช้ในการโฆษณาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเอาแฟนบอลของพวกเขากระดี๊กระด๊าเหมือนกับลีลาของเจ้าตัวเวลาอยู่ในห้องแต่งตัว หรือในสื่อโซเชียล เพราะเชื่อว่านี่คือนักเตะที่จะนำความสำเร็จสู่ทีม

    เสื้อหมายเลข 6 ของเขาขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามเสื้อเบอร์ดังกล่าวไม่ได้ป็อบปูล่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เพราะ ป็อกบา ไม่สามารถงัดศักยภาพชั้นยอดของเขาออกมาได้เลยในการเล่นให้ ยูไนเต็ด ไม่เหมือนตอนอยู่กับ ยูเว่ และทีมชาติฝรั่งเศส

    แถมมีแววว่าเจ้าตัวจะทิ้งทีมแบบฟรีเอเยนต์อีกครั้ง ! ถ้าหากเป็นความจริง เชื่อว่าคงได้มีข่าวแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด เผาเสื้อหมายเลข 6 ของเขาแหงๆ